พณ.-ผู้ผลิต-ห้าง ประสานเสียง ‘ไม่ต้องกักตุน’ สินค้าอุปโภคบริโภค ยันเพิ่มกำลังผลิตได้อีก 30% สต๊อกแน่น 3 เดือน
เมื่อเวลาประมาณ 18.15 น. วันที่ 16 มีนาคม นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคและผู้ประกอบการค้าปลีก ประมาณ 56 ราย ในประเด็นสถานการณ์ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อกักตุนจากความกังวลเรื่องการไว้รัสโควิด-19 ว่า ผู้ผลิตยังยืนยันว่า ยังมีกำลังการผลิตเหลือ 30-40% ที่จะสามารถผลิตสินค้าป้อนผู้บริโภค และยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบและการขนส่ง เช่นเดียวกับผู้ประกอบการค้าปลีกที่ยืนยันว่า มีสต๊อกเพียงพอกับความต้องการ และให้ความร่วมมือสินค้าบนชั้นวางสินค้าให้เร็วขึ้นและเพียงพอกับความต้องการให้มากขึ้น เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ความต้องการเพิ่ม 30-50% ปลากระป๋อง (ทูน่า) เพิ่มกว่า 30% เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการให้รัฐให้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อลดความตระหนกและลดความไม่เข้าใจของประชาชน
“กรมจะมีการติดตามสถานการณ์ปริมาณสินค้าและกำหนดราคาจำหน่ายที่เหมาะสม โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไทยไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร เพราะไทยเป็นแหล่งผลิตอาหาร” นายประโยชน์กล่าว
นายฉัตรชัย ดวงรัตนพันธ์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ผู้ผลิตได้ยืนยันว่ายังใช้กำลังการผลิตเพียง 70% ของกำลังการผลิตรวม ดังนั้น ไม่ต้องกัวลเรื่องสินค้าไม่เพียงพอ หากความต้องการเพิ่มสามารถเพิ่มการผลิตได้ทันที ซึ่งไม่เหมือนเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ เพราะตอนนั้นสินค้าขาดแคลนเพราะโรงงานน้ำท่วมไม่สามารถผลิตได้ และไม่สามารถกระจายสินค้าได้ แต่ครั้งนี้ยังผลิตและกระจายสินค้าได้ แม้มีบางโรงงานเจอปัญหาโควิด-19 จนต้องหยุดโรงงาน แต่ก็ยังมีโรงงานอื่นๆ ที่จะสามารถผลิตได้ เช่น กลุ่มผู้ผลิตข้าวถุง มีถึง 124 บริษัท และมีสต๊อกขั้นต่ำ 3 เดือน เป็นต้น
“ส่วนที่ระบุว่ามีการปิดป้ายหมดแล้วหมดเลยนั้น เพราะเป็นช่วงจัดโปรโมชั่นพอดี เมื่อความต้องการสูง สินค้าหมดก็ต้องเลิกโปรโมชั่นลดราคานั้นๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องสินค้าไม่เพียงพอ” นายฉัตรชัยกล่าว
นางสาวศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างแม็คโคร กล่าวว่า ยอดมรับว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกระแสข่าวเรื่องโควิด-19 ได้ทำให้เกิดการเข้ามาซื้อสินค้ามากกว่าปกติ โดยเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลสูงถึง 50% แต่โดยรวมทั้งประเทศเพิ่ม 30% ซึ่งการเพิ่มขึ้นเป็นอิทธิพลสื่อทำให้คนซื้อของเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ซึ่งขอให้มั่นใจว่าห้างมีการเตรียมสต๊อกเพียงพอ และมีการเติมสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สินค้าที่มีความต้องการสูงในช่วงนี้ คือ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ อาหารกระป๋องต่างๆ กระดาษชำระ สินค้าเกี่ยวกับซักล้าง และทำความสะอาด เป็นต้น
“ถ้าหากไทยเข้าเฟส 3 โควิด-19 จริง ก็อยากให้ชัดเจนว่าจะยังเดินทางไปซื้อสินค้าได้ ส่งออกได้ เหมือนเดิม เรื่องข้อมูลต้องชัดเจน จะช่วยเรื่องไม่ตื่นกักตุน” นางสาวศิริพรกล่าว
ด้านนางสาวณัฏฐินี เนตรอำไพ ผู้จัดการส่วนอาวุโสส่วนองค์กรและสื่อมวลชนสัมพันธ์ บริษัท ยูนิลิเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าหลายชนิดที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น โจ๊ก ก็จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 80% จากกำลังซื้อเพิ่มเท่าตัว ซึ่งยืนยันว่ามีสินค้าเพียงพอและสต๊อกผลิตจะมีต่อเนื่องในอัตรา 3 เดือน และยืนยันไม่มีการรปับขึ้นราคาสินค้าแน่นอน
Admin : หนูนา
ขอบคุณที่มาและรูปจาก : Matichon, NEWS1
สนใจแพคเกจท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบินทั่วโลก หรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-2945598, 092-294 5598
หรือ คลิ๊ก https://www.itravelroom.com/