แคนาดาปิดประเทศห้ามต่างชาติเข้าสู้โควิด-19 รัสเซียเอาด้วยปิดยาวถึงพ.ค.

แคนาดาปิดประเทศห้ามต่างชาติเข้าสู้โควิด-19 รัสเซียเอาด้วยปิดยาวถึงพ.ค.

 แคนาดาประกาศปิดประเทศไม่ให้ชาวต่างชาติเข้าแล้ว เช่นเดียวกับรัสเซียที่ประกาศมาตรการควบคุมการจัดงานและการรวมตัวในงานต่างๆ ด้วย


สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งประเทศแคนาดา มีแถลงการณ์ในวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. 2563 ว่าแคนาดจะปิดพรมแดนไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อในประเทศแล้ว 422 รายและเสียชีวิตอีก 4 คน

มาตรการดังกล่าวจะมีผลต่อผู้ที่ไม่ใช่ชาวแคนาดาหรือผู้อยู่อาศัยถาวรในแคนาดา แต่ยกเว้นชาวอเมริกัน, พนักงานบนเครื่องบิน, ทูต และสมาชิกครอบครัวของชาวแคนาดา ซึ่งชาวแคนาดาและผู้เข้าข่ายยกเว้นที่เดินทางเข้าแคนาดาจะต้องกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน
ทั้งนี้ นายทรูโดแถลงจากบ้านของเขาในกรุงออตตาวา ที่เขากักกันตนเองร่วมกับครอบครัว หลังจากนาง โซฟี เกรกอรี ทรูโด ภริยาของเขา ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากอังกฤษเมื่อสัปดาห์ก่อน

อีกด้านหนึ่งสำนักข่าว มอสโก ไทม์ส ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียก็ออกคำสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.จนถึงวันที่ 1 พ.ค. โดยยกเว้นให้นักการทูต, พนักงานบนเครื่องบิน และบุคคลอื่นๆ ที่เข้าข่าย หลังพวกเขาพบผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 30 รายจนยอดล่าสุดเพิ่มเป็น 93 รายแล้ว

ด้านนายเซอร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโกสั่งห้ามจัดงานกลางแจ้งทั้งหมดในเมืองหลวงแห่งนี้ รวมทั้งจำกัดการจัดงานในร่มไม่ให้มีผู้มารวมตัวกันเกิน 50 คนจนถึงวันที่ 10 เม.ย. นอกจากนี้เขายังส่งปิดโรงเรียน และสถานบันการศึกษาในกรุงมอสโกตั้งแต่ 21 มี.ค.ถึง 12 เม.ย.ด้วย

ขณะที่นาย โอเลก มาตีตซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาของรัสเซีย ประกาศยกเลิกการแข่งกีฬาทั้งหมดตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป และสั่งให้สถาบันการศึกษาและวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อำนาจของกระทรวง เพิ่มการทำความสะอาดและมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ด้วย

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี มิคาอิล มิชูสติน เพิ่มประกาศมาตรการเพื่อจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึง งบประมาณต่อต้านวิกฤติมูลค่า 3 แสนล้านรูเบิล (ราว 1.3 แสนล้านบาท) และตกลงร่วมกับประเทศอาร์เมเนียในการจำกัดผู้โดยสารที่จะเดินทางระหว่างทั้ง 2 ประเทศด้วย

BY : หนูพลุก 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ 


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้