โซเชียลพร้อมใจติดแฮชแท็ก #ผีน้อย ที่ขอกลับประเทศ แห่ลงทะเบียน 5,000 คน หนีไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนัก เรียกร้องรัฐคุมเข้ม ไม่ควรให้กักตัวเองที่บ้าน ด้านแพทย์ไม่เห็นด้วยให้ผีน้อยกักตัวเอง แนะเปิดพื้นที่ดูแลโดยเฉพาะ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขประกาศ 9 ประเทศ เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้น
มาตรการกักตัวเอง 14 วัน ไร้กฎหมายควบคุม
“แน่นอนเขาต้องออกจากบ้านแน่ๆ จะพูดว่าเรื่องกฎหมายไม่ได้แล้วตอนนี้ มันมีกฎหมายแล้วด้วย แล้วในขณะเดียวกัน ถ้าไม่ทำ 5,000 คนนี้ หนึ่งคนก็แพร่ไปได้ทุกที่ เราตายเลย ตอนนี้ก็มีซ่อนๆ อยู่เต็มไปหมดเลย โดยที่เราไม่รู้ตัว”
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฬา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Live หลังจากมีกระแสข่าวแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หรือผีน้อย แห่รายงานตัว 5,000 กว่าคนขอกลับประเทศ
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศจะรับผิดชอบการเดินทางกลับ เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อรักษาอาการตามขั้นตอน
เนื่องจากรัฐบาลเองไม่สามารถควบคุมหรือกักตัวผู้ที่กลับมาได้ แม้ว่าจะมาจากเมืองที่แพร่ระบาดก็ตาม เพราะต้นทางไม่ได้มีการปิดเมือง พร้อมบอกให้ผู้ที่กลับมาเข้าใจสถานการณ์ ทางไทยเองไม่มีกฎหมายควบคุมเรื่องนี้
ทำให้ชาวโซเชียลลุกฮือ พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #ผีน้อย จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการคุมเข้ม ไม่ควรให้กักตัวเองที่บ้าน เพราะจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนเหล่านั้นจะไม่ออกไปในพื้นที่สาธารณะ
ขณะเดียวกัน หมอธีระวัฒน์ ก็บอกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยหากจะให้กักตัวเองอยู่บ้าน 14 วัน พร้อมเสนอมาตรการรับมือกับผีน้อยที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ว่าต้องมีพื้นที่กักตัวโดยเฉพาะ หากปลอดภัยแล้วค่อยปล่อยกลับบ้าน
“กักตัวแบบฟรีสไตล์มันไม่ได้ ตายแน่ ตอนนี้พวกเรากลัวทั้งประเทศ มันน่ากลัวมาก คือเขากลับไปบ้าน เราก็รู้ว่าสถานะเขาก็อาจจะอยู่ระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่สามารถจะกักตัวที่เราอยากให้เขากักได้ เสร็จแล้วเขาก็ต้องออกไปหางานทำ ออกไปหาเพื่อนฝูง เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดเราก็กัก
อาจจะหาที่คล้ายๆ เป็นโรงพยาบาลสนาม ตั้งเต็นท์ มีอาหารการกิน แต่ต้องแยกเป็นสัดส่วนพอสมควร อย่างที่เป็นเต็นท์สนามคอยตรวจร่างกายเป็นระยะๆ ไป ตรงนั้นมันก็จะปลอดภัยกว่า ทุกคนเห็นด้วยว่าต้องกักตัว คงต้องเป็นลักษณะพื้นที่สนามที่มีการดูแล
ที่กักตัวแต่ละที่ต้องไม่ปะปนกัน เปรียบเสมือนว่าเขาอยู่ที่บ้าน ก็ต้องห่างกัน 2 เมตร คือไม่เดินเข้ามาใกล้ชิดกัน ไม่ได้สัมผัสกัน ในแต่ละคนนั้นต้องเปลี่ยนหน้ากาก เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเขามีเชื้อหรือไม่มีเชื้อ ตรงนี้ไม่ต้องตรวจเชื้อก็ได้ แต่ว่าถ้าหากว่าก่อนครบ 14 วันตอนนี้ค่อยตรวจครั้งสุดท้ายเลยก็ได้
ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่แน่ใจว่ากักตัวเองได้ที่บ้าน ตรงนี้เองเขามาจากสถานที่ ที่เสี่ยงค่อนข้างสูงมาก เพราะฉะนั้นในกรณีอย่างนี้ก็ต้องกักตัวในที่ที่เราดูแลได้ จะไม่ต้องตรวจวันแรกก็ได้ แต่ว่าต้องตรวจวันสุดท้าย แล้วก็ตรวจสุขภาพทุกวัน”
นอกจากนี้ หมอธีระวัฒน์ยังย้ำอีกว่า มาตรการกักตัวหรือการเฝ้าระวังเป็นมาตรฐานที่ควรทำ และมีทุกประเทศ และหากจะห้ามไม่ให้ผีน้อยเดินทางเข้าออกประเทศคงเป็นไปไม่ได้ อยากให้เห็นใจทุกฝ่าย ยังไงก็คนไทยเหมือนกัน
“มาตรฐานลักษณะอย่างนี้มีทุกประเทศเลย สิงคโปร์ จีน แม้กระทั่งเขมรเอง ตอนที่เรือที่เราไม่ให้เข้า ปรากฏว่าเขมรเองเก่งมาก เขาให้ที่กักตัวเป็นสัดเป็นส่วน เสร็จแล้วเขามีนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ ผ่านทางสถานทูตสหรัฐฯ ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน ใช้วิธีกักตัว ตรวจทุกอย่างเลย แล้วก็เก็บตัว ตรวจเป็นพันๆ คน ตรวจหมดเลย เขาถึงปล่อยออก
เขมรเองเขาไม่ได้ประกาศนะว่าเขาทำอะไร แต่ว่าเขามีวิธีการที่เราน่าจะทำอย่างนั้น สงสัยเราคงต้องไปเรียนรู้จากเขมรแล้วมั้งครับ
ส่วนเรื่องการควบคุมการเดินทางเลยคงไม่ได้ เพราะว่าก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เต่ว่าจะต้องกักตัว 14 วัน อยู่ในพื้นที่ที่เราควบคุมได้ แบ่งโซน แล้วก็หาข้าวปลาอาหารการกินให้ด้วย
คือจริงๆ แล้วเขาไม่มีกำลังทรัพย์อะไรที่เขาจะดูแลตัวเองได้ อย่างคนที่กลับไปทัวร์ต่างประเทศต้องยอมรับว่าก็มีเงินระดับหนึ่ง แต่ว่าพวกนี้ที่เขากลับมา เขาไม่มีกำลังทรัพย์ขนาดนั้น
เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปว่าเขา เราก็ต้องดูว่าตัวเขาเองทำได้หรือเปล่าโดยที่เราอยากให้เขาทำ ถ้าหากว่าใครที่กลับบ้านได้ พอที่จะมีญาติพี่น้อง ต้องแน่ใจเลยนะว่ากักตัวที่บ้านอย่างเข้มข้นได้ ก็ให้เขากลับ แต่ว่าต้องมีคนดูแล มีเจ้าหน้าที่พื้นที่คอยดูแล
แต่ใครที่บอกว่ายังไงก็ตาม ทำตัวอย่างนั้นไม่ได้แน่ๆ ก็ขอร้องว่าหยุด 14 วัน เราก็ดูแลเขา พอจบ 14 วัน ก็เหมือนกับว่าเขารับผิดชอบต่อประเทศ แต่เราก็ต้องรับผิดชอบเขาด้วย ไม่ใช่ว่าเราไปด่าเขาเฉยๆ อย่างนั้นมันไม่ใช่ ตอนนี้เราปลอดภัยมานาน ถ้าเราไม่เข้มจริงๆ ทั้งคนที่กลับมา พวกเราทุกคนในขณะนี้เราไปแน่”
เสนอปิดเกาะ กักตัวผีน้อย
ขณะที่ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เจ้าของเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง “Drama-addict” เสนอพื้นที่เกาะปิดกักตัวแบบออสเตรเลีย 14 วัน
“ข้อเสนอถึงเจ้าที่กำลังเตรียมรับมือผีน้อย 5,000 คนที่กำลังขอกลับไทย ซึ่งมีจำนวนหนึ่งมาจากพื้นที่เสี่ยงมากอย่างแทกู อยากให้เราทำตามแนวทางที่ออสเตรเลียเคยทำ
ตอนนั้นเขาอพยพคนกลับจากจีนหลายร้อยคน แล้วใช้พื้นที่บนเกาะคริสต์มาสของประเทศเขาในการกักตัวเพื่อสังเกตอาการคนที่อพยพกลับ จนมั่นใจว่าปลอดภัย ไม่ติดโรค จึงให้กลับเข้าประเทศ
ของเราน่าจะทำคล้ายๆ กัน เช่น อาจหาเกาะ หรือพื้นที่ที่แยกจากแหล่งชุมชนได้ เพื่อกักกันโรคคนกลุ่มนี้ จนพ้น 14 วัน ถ้าไม่ติดเชื้อใดๆ ก็ให้เข้าประเทศได้ตามปกติ แบบนี้น่าจะปลอดภัยกับทุกฝ่าย”
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ถึงเรื่องการเดินทางของกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ รอประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่ชัด เพื่อกำหนดแนวทางการควบคุมป้องกันโรค
พร้อมย้ำอีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว ขอให้ผีน้อยโทร.มาแสดงตัวต่อกรมควบคุมโรค เพื่อที่จะได้มีการติดตามเฝ้าระวัง หรือเพื่อนบ้านที่ทราบว่าใครเป็นผีน้อยแล้วไม่ได้เฝ้าระวังตัวเอง 14 วัน ก็ให้โทร.แจ้งกรมควบคุมโรคด้วยที่สายด่วน 1422 จะมีการเก็บเป็นความลับ แต่ขอว่าอย่าไปรังเกียจ
ขณะที่ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม โดยยอดผู้ป่วยสะสมยังอยู่ที่ 43 ราย เป็นผู้ป่วยที่รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 31 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย
ล่าสุด อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อควมผ่านเฟซบุ๊กว่า ทุกคนที่เดินทางมาจาก 9 ประเทศ ซึ่งเป็นเขตติดโรค ต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้น
ซึ่งในประกาศกระทรวงสาธารณสุข สำหรับ 9 ประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า) ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน
Admin : ข้าวปั้น
ขอบคุณที่มากจาก : MGRONLINE
สนใจแพคเกจท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบินทั่วโลก หรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-2945598, 092-294 5598
หรือ คลิ๊ก https://www.itravelroom.com/
#Covid-19 #โควิด-19 #โคโรน่าไวรัส #โคโรน่า #ผีน้อย #ผีน้อยเกาหลี